DAMAC Islands เปิดขายสุดปัง! ขายวิลล่าได้ถึง 3,000 หลังภายใน 8 ชั่วโมง ความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ดูไบพุ่งทะลุจุดเดือด

DAMAC เป็นหนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของดูไบ ก่อตั้งขึ้นในปี 1982 มีประวัติยาวนานกว่า 40 ปี ธุรกิจของบริษัทขยายครอบคลุมในหลายประเทศ ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ จอร์แดน เลบานอน โอมาน และสหราชอาณาจักร โดยครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ อสังหาริมทรัพย์ การจัดการทรัพย์สิน โรงแรม ค้าปลีก แฟชั่น โลจิสติกส์ ศูนย์ข้อมูล และการลงทุนในหุ้น.

DAMAC มีความร่วมมือข้ามวงการกับแบรนด์ระดับโลกมากมาย อาทิ การจับมือกับอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump เพื่อพัฒนาโครงการสนามกอล์ฟ, ความร่วมมือกับโรงแรม Paramount, Vodafone รวมถึงแบรนด์หรูอย่าง Versace และ Fendi นอกจากนี้ ความคืบหน้าของโครงการต่าง ๆ ของ DAMAC ยังมีการอัปเดตอย่างสม่ำเสมอบนเว็บไซต์ทางการ จึงเป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือสำหรับนักลงทุนต่างชาติ.

จากความสำเร็จอย่างถล่มทลายของโครงการ DAMAC Lagoon เฟสแรกที่เปิดขายวันแรกก็ขายหมดเกลี้ยงถึง 900 ยูนิต แม้แต่ยูนิตในตำแหน่งทั่วไปก็หายากยิ่งดั่งทองคำ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ราคาอสังหาริมทรัพย์ในโครงการนี้ — ตั้งแต่ทาวน์โฮม 3 ห้องนอนไปจนถึงบ้านเดี่ยว 6 ห้องนอน — ปรับตัวขึ้นสูงสุดถึง 144% และมีอัตราเฉลี่ยเพิ่มขึ้นถึง 50% โดยยังคงมีแนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่แปลกใจเลยที่นักลงทุนกระเป๋าหนักต่างแห่กันเข้ามาแย่งซื้อ.

เพื่อตอบสนองต่อความต้องการมหาศาลของนักลงทุนที่มีต่อวิลล่าระดับไฮเอนด์ในดูไบ DAMAC จึงได้เปิดตัวโครงการทะเลสาบคริสตัลขนาดใหญ่อีกหนึ่งแห่งภายใต้ชื่อ DAMAC Islands โดยทั่วไปแล้ว วิลล่าที่มีวิวติดน้ำจะมีอัตราการปรับขึ้นของราคาสูงกว่าวิลล่าทั่วไป และบ้านเดี่ยวก็มีแนวโน้มปรับขึ้นราคามากกว่าทาวน์โฮม อีกทั้ง การเปิดตัวเฟสแรกของโครงการชุมชนขนาดใหญ่ก็มักจะเป็นช่วงเวลาที่ราคายังอยู่ในระดับต่ำ จึงถือเป็นโอกาสทองในการลงทุน

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา DAMAC Islands ได้เปิดขายอย่างเป็นทางการ และภายในเวลาเพียง 8 ชั่วโมง มียอดขายรวมสูงถึง 10,000 ล้านดีแรห์ม โดยขายวิลล่าได้มากกว่า 3,000 ยูนิต

DAMAC Islands ได้รับแรงบันดาลใจจากเกาะรีสอร์ทเขตร้อนที่ดีที่สุดในโลก เป็นโครงการชุมชนวิลล่าระดับไฮเอนด์ที่มีพื้นที่กว้างถึง 30 ล้านตารางฟุต พร้อมวิวทะเลน้ำจืดขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในย่าน Dubai Land ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาวิลล่าระดับสูงในดูไบ โดยมีโครงการวิลล่าหรูอื่น ๆ ล้อมรอบ เช่น The Acres, Athlon, และ Arabian Ranches 3

• จุดตัดของถนนหมายเลข 63 และ 611
• ใช้เวลา 20 นาทีถึงโรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง
• Dubai Sports City – ขับรถ 15 นาที
• Dubai Investment Park – ขับรถ 20 นาที
• สถานที่จัดงาน Expo 2020 – ขับรถ 22 นาที
• สนามบินนานาชาติ Al Maktoum – ขับรถ 23 นาที
• สนามบินนานาชาติดูไบ – ขับรถ 28 นาที
• เปิดเส้นทางรถไฟฟ้าในปี 2030
  

• สวนโดมน้ำ
• สวน Iguanas
• ตลาดผลไม้
• แม่น้ำป่า
• สปาน้ำพุร้อน
• เรือคายัคและแพดเดิลบอร์ด
• โดมและสวน
• ซิปไลน์
• สวนสัตว์ป่าและตลาดสด
• ดาดฟ้าลอยน้ำ
• ฟิตเนสกลางแจ้งและอุปกรณ์ฟิตเนสริมถนน
  

ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยในดูไบกลับยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2024 อัตราการเติบโตสูงถึง 28.5% ในขณะเดียวกัน ดูไบยังกลายเป็นประเทศที่ดึงดูดบุคคลที่มีมูลค่าสุทธิสูงที่สุด โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จำนวนมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้นถึง 78% ทำให้ดูไบกลายเป็นหนึ่งในเมืองที่มีมหาเศรษฐีอาศัยอยู่มากที่สุดในโลก.

นอกจาก "วีซ่าทองคำ" แล้ว นโยบาย "ยกเว้นภาษี" ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยังเป็นข้อได้เปรียบสำคัญที่ดึงดูดนักลงทุนทั่วโลก สำหรับรายได้จากเงินเดือน โบนัส เงินปันผล การบริหารจัดการการเงิน ค่าเช่าบ้าน ฯลฯ จะไม่มีการเก็บภาษีรายได้บุคคล นอกจากนี้ยังไม่มีภาษีกำไรจากการลงทุน ไม่มีภาษีมรดก ไม่มีภาษีแสตมป์ และไม่มีภาษีที่ดิน แม้กระทั่งการเปิดบริษัทก็สามารถเพลิดเพลินกับนโยบายยกเว้นภาษีหรือนโยบายภาษีที่ต่ำมาก ซึ่งทำให้ดูไบเป็นเหมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดมหาเศรษฐีและผู้ประกอบการจากทั่วโลกให้หลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง.

อัตราส่วนระหว่างราคาบ้านและค่าเช่าของดูไบอยู่ที่ 9.39 ซึ่งหมายความว่านักลงทุนสามารถได้รับผลตอบแทนจากค่าเช่าที่มั่นคงประมาณ 8-10% ทำให้มีนักลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่หันมาสนใจดูไบ ส่งผลให้ปริมาณและมูลค่าการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ยังคงเพิ่มสูงขึ้น ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2024 ปริมาณการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เกือบจะถึง 100,000 รายการ ซึ่งเกินกว่าในปี 2023 และยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว.

หลังจากการระบาดของโควิด-19 ราคาบ้านในดูไบเพิ่มขึ้นจาก 760 ดาร์แฮม/ตารางฟุต ไปสู่ 1391 ดาร์แฮม/ตารางฟุต โดยมีอัตราการเพิ่มขึ้นสูงถึง 83% โครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลดีมักจะมีผู้ซื้อจำนวนมากเข้ามาจองเงินดาวน์ตั้งแต่ก่อนเปิดขาย และเมื่อถึงวันเปิดขายจริงๆ มักจะขายหมดภายในไม่กี่ชั่วโมง ท่ามกลางความคึกคักและผู้คนแน่นขนัด.

ในขณะเดียวกัน วิลล่าหรูในดูไบกำลังกลายเป็นตัวเลือกหลักของนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ในเดือนกันยายน 2024 ยอดขายวิลล่าในดูไบอยู่ที่ 12.2 พันล้านดาร์แฮม โดยมีจำนวนการซื้อขายทั้งหมด 2,935 หลัง ซึ่งเพิ่มขึ้น 29.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ชัดเจนว่าในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของดูไบที่มีลูกค้าหลักเป็นมหาเศรษฐีและบุคคลที่มีมูลค่าสุทธิสูง วิลล่าหรูเป็นผู้นำตลาดอย่างสมควร ทั้งในแง่ของประสบการณ์การอยู่อาศัยและผลตอบแทนจากการลงทุนที่ยังคงเป็นที่หนึ่ง.